ในที่สุด สิ่งที่ผมรอคอยมานานหลายปีอย่าง Spotify ก็มาถึงไทยแล้วอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2560 โดยปล่อยให้ Download app ตั้งแต่คืนวันที่ 21 สิงหาคม ผมเองก็ไม่รอช้าจัดตั้งแต่ชั่วโมงแรกเลย ส่วนตัวผมใช้ Apple Music มากว่าสองปี และเคยเขียนรีวิวไว้ ที่นี่ รีวิวนี้เลยจะเน้นไปที่การเปรียบเทียบกับ Apple Music เป็นหลักครับ
ราคา
เท่ากันกับ Apple Music เลยครับ อยู่ที่เดือนละ 129 บาท และ 199 บาทสำหรับ Family Plan (สูงสุด 6 คน) โดยในตอนนี้ Spotify ยังไม่มีราคานักศึกษาเหมือน Apple Music รวมถึงสามารถทดลองใช้ได้แค่ 30 วัน (Apple Music ได้ 90 วัน)
หน้าตาแอพ
ผมเน้นใช้งานกับ Android เป็นหลัก หน้าตาแอพดูเป็นมิตร เข้าใจง่าย หาเพลงฟังได้ง่ายกว่า Apple Music พอสมควร หน้าตา Widget ดูดีกว่าครับ
ความเสถียรของแอพ
ตรงนี้เป็นจุดที่ผมรำคาญ Apple Music บน Android มากๆ แอพมี Bug เยอะมาก ส่วน Spotify มีแอพบน Android มานานมากแล้ว ความเสถียรสูงกว่ามาก Widget ใช้งานได้จริง ส่วนที่ชอบมากคือการใช้งานผ่าน Bluetooth ดีกว่ามากๆ ปิดลำโพงแล้วเพลงก็ Stop ให้ทุกครั้งไม่ต้องลุ้นเหมือน Apple Music ที่บางทีไม่ปิดเพลงให้ รวมถึงสิ่งสำคัญคือ Apple Music บน Android เวลาฟังเพลงผ่าน Bluetooth หลายๆครั้งมันจะข้ามเพลงเองทั้งๆที่เพลงยังไม่จบ สร้างความรำคาญให้ผม จนหลายๆครั้งแทบไม่อยากจะฟังเพลงเลย ส่วน Spotify ไม่มีปัญหานี้เลย รักเลยครับ
เรื่องเสียงอันนี้พูดยาก
Spotify ไฟล์เสียงคุณภาพสูงสุดจะอยู่ที่ OGG 320kbps ส่วน Apple Music จะอยู่ที่ ACC 256kbps ทำให้ไฟล์เพลงของ Spotify ใหญ่กว่า เปลืองเน็ตมากกว่า เปลืองพื้นที่ในมือถือมากกว่าในโหมด offline ส่วนเรื่องเสียงนั้น Apple Music เสียงเพลงจะดังกว่า กลางเบสจะออกเยอะกว่า ฟังสนุกกว่า ส่วน Spotify จะเบากว่า กลางแหลมชัดกว่า รายละเอียดดีกว่านิดหน่อยแบบรู้สึกได้ ถ้าวัดกันแบบไม่ใช่หูทองแบบผม ผมชอบเสียงจาก Apple Music มากกว่านิดนึงครับ
Playlist เทพ
จุดเด่นที่สุดของ Spotify คือ มี Playlist ที่ดีงามมาก ปรับแต่งให้เข้ากับผู้ฟังได้ดีกว่า ทำให้การฟังเพลงสนุกกว่า Apple Music ที่ทำ Playlist ได้น่าเบื่อมากๆ หลายๆครั้งเปิดมาเจอ Playlist เดิมๆทำให้ไม่รู้จะฟังอะไรดี เมื่อคืนผมลองใช้ Playlist ของ Spotify ตอนตีสอง มันเลือกเอา เพลงสำหรับการนอนหลับมาให้เป็นอันแรก รู้ใจยิ่งกว่าเมียผมอีกนะครับเนี่ย
ยังไม่มีเพลงจาก RS
อันนี้เป็นเหมือนกันทั้งสองเจ้า ถ้าอยากฟังเพลงจากค่ายนี้ในตอนนี้ต้องไปใช้ Joox เท่านั้นครับ
สรุป
ผมยกเลิก Apple Music ไปแล้วเรียบร้อย การมาของ Spotify จะช่วยเปิดโลกการฟังเพลงให้ผมได้อีกเยอะมากๆ ทำให้เงินที่จ่ายไปแต่ละเดือนดูคุ้มค่ากว่า เรามาอยู่ในยุคที่ การฟังเพลงเถื่อนเป็นเรื่องวุ่นวายกว่าฟังเพลงแบบถูกกฏหมายแล้วนะครับ
สุดท้ายนี้ เพลง Just Alone ของผมก็มีให้ฟังใน Spotify ด้วยนะครับ