เนื่องจากผมเคยได้คุยกับนักเปียโนมือใหม่หลายๆคน ที่อยากจะเล่นเปียโนโดยเริ่มต้นที่แนว pop ด้วยเหตุผลที่ว่า “มันน่าจะง่ายดี classic มันยากกว่าเยอะ”
โดยส่วนตัวของผมแล้ว ที่เล่น pop piano เป็นหลัก จะบอกว่า คำพูดนี้ จริงครึ่งหนึ่ง และ ไม่จริงครึ่งหนึ่ง อ้าว แล้วมันจริงหรือไม่จริงกันเล่า….
เหตุที่ทำให้ pop piano เล่นง่ายกว่า classic คือ
– ใช้ความเข้าใจและการตีความ รวมถึงเทคนิคที่จะทำให้เล่นเพลงๆนั้น น้อยกว่า เพราะเพลง pop ที่เล่นแบบง่ายๆเช่น มือขวาเป็น melody ตัวเดียวโดดๆ ส่วนมือซ้ายเล่น block chord (การกดคอร์ดลงไปตรงๆ) ก็เป็นเพลงได้แล้ว
– เพลง pop เป็นเพลงที่เข้าถึงกลุ่มคนทั่วไปได้ง่ายกว่า บางครั้งเราเล่นแบบง่ายๆ คนฟังก็จะคิดว่า “เก่งจัง” ส่วน classic นั้นจะเข้าถึงกลุ่มคนที่ไม่ใช่นักดนตรีได้ยาก บางครั้งเราเล่นเพลงๆนึง ซ้อมแทบตาย พอไปเล่นให้คนอื่นฟังกลับไม่รู้จักหรือไม่สนใจซะงั้น
– โ้น้ตเพลง pop ที่มีขายอยู่ทั่วๆไปสามารถเล่นตามได้ง่าย ไม่ค่อยมีเทคนิคมากมายเท่าไหร่ ทำให้ใช้เวลาในการฝึกเพลงๆนั้นไม่นานมากนักก็เอาไว้เล่นโชว์ได้แล้ว
– เพลง pop ในปัจจุบัน หลายๆ เพลงไม่มีความซับซ้อน ใช้ form chord ง่ายๆกับ melody ธรรมดาๆทั่วไป ทำให้การจะเล่นเพลงนั้นๆไม่ยากตามไปด้วย
อ่านๆดู อืมม… มันก็ดูไม่ยากจริงๆนะ แล้วที่ว่า ไม่จริงครึ่งหนึ่ง คืออะไรล่ะ
เหตุที่ทำให้ pop piano ไม่ได้เล่นง่ายกว่า classic คือ
– โน้ตเพลง pop ที่วางขายกัน หลายๆเพลงจะมีแค่โน้ตมือขวา อ้าวแล้วเค้าเล่นมือซ้ายกันอย่างไรล่ะ… มือซ้าย เล่นแบบง่ายสุดก็จะเล่นเป็น block chord ส่วนพัฒนาขึ้นมาหน่อยก็จะเล่นเป็น broken chord เช่น 1-5-8, 1-5-10 หรือพัฒนาขึ้นไปอีกก็จะไหลไปตามทำนองไม่ซ้ำกันมากนักเพื่อไม่ให้เกิดความน่า เบื่อ ฉะนั้น ผู้เล่นจะต้องแม่นคอร์ดมากๆ ไม่ใช่แค่จำว่า คอร์ด C กดโน้ต โด – มี – ซอล แค่นี้นะ แต่จะต้องจำให้ได้ว่ามีโน้ตอะไรบ้าง และจะต้องเล่นอย่างไรให้ออกมาไพเราะ ไม่ใช่เล่นในช่วงที่ต่ำเกินจนฟังไม่รู้เรื่อง หรือเล่นสูงเกินจนไปกัดกะ melody (ทำให้เพลงฟังดูไม่แน่นด้วยเพราะไม่มีเบสคอยคุม)
– มือขวาถ้าเล่นเป็น melody ตัวเดียวโดดๆ จะฟังดูไม่ค่อยไพเราะ (และไม่โปร 55+) ดังนั้นเราจะต้องมีการเพิ่มตัวประกอบ อ้าว.. ในโน้ตไม่มีนี่หว่า แล้วจะทำยังงัย ต้องเพิ่มเองครับ อันดับแรก คุณต้องแม่น scale มากๆ คำว่าแม่นไม่ใช่ ไล่ scale สองมือขึ้นลง 4 octave ด้วยความเร็ว 120 เท่านั้นนะครับ ต้องรู้ว่า เพลงนั้นๆอยู่ในคีย์อะไร แล้ว melody ที่เราเล่นอยู่เป็นตัวที่เท่าไหร่ของ scale พอเราเข้าใจแล้ว เราก็ลองเพิ่มลูกเล่นไป เช่น ใช้คู่ 3/ คู่ 5 หรือตัวประกอบคอร์ดในจังหวะนั้นๆมาเล่นเสริม, การเล่นโน้ตประดับ ยกตัวอย่างเช่น grace note ที่เป็นตัวประกอบคอร์ดเบาๆ/ตัวผ่านใน scale หรือนอก scale เพื่อส่งเข้า melody หลัก เป็นต้น
– เทคนิคหลายๆอย่าง (จริงๆก็ทุกอย่างแหละ) ในเพลง pop เกิดจากเพลง classic ทั้งนั้น ดังนั้นหากพื้นฐาน classic ของคุณมีไม่มาก โอกาสที่จะพัฒนาความสามารถของ pop piano จะทำได้ไม่ดีมากนัก
ดังนั้นสำหรับนักเปียโนมือใหม่ที่อยากจะเริ่มต้นด้วย pop piano แต่แรก ก็สามารถเล่นได้นะ แต่มันก็จะเหมือนกับต้นไม้ที่รากฐานไม่แข็งแรง จะเติบโตต้านลมต้านฝนต่อไปก็คงจะทำได้ลำบาก แต่ถ้ามีพื้นฐานที่ดีๆ โดยเริ่มจาก classic แล้ว การจะต่อยอดต่อไปก็จะทำได้ง่ายขึ้น จริงๆนะ
แต่สุดท้ายแล้ว หากจะเล่นเปียโนด้วยความสุข อยากจะเริ่มต้นที่อะไรก็จัดไปเลยครับ ไม่มีดนตรีแนวไหนดีกว่าแนวไหนหรอก เพลงจะดีมันอยู่ที่เพลง และคนเล่น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแนวเพลง ค่ายเพลง หรือแม่ค้ากล้วยปิ้งหน้าปากซอยซะหน่อย….
ทุกวันนี้ก็ท่องอยู่ว่า..อดทนกับคลาสิคไว้ อดทนไว้ ฐานจะได้แน่นๆ ฮ่าๆๆๆ
Good Article 🙂
เห็นด้วยครับ ผมเล่นclassicมาก่อนเหมือนกัน (เรียนเปียโนมา10ปี)พอลองมาเล่นpop มันก็เล่นพอได้นะ แต่พอเล่นซักพักมันเริ่มเบื่อ เหมือนเราไม่ค่อยมี trickที่จะเอสมาใส่เป็นพวก melodyมือขวาอ่ะครับ มันเลยดูธรรมดาๆ ตอนนี้ก็เลิกเล่นมา5-6ปีละ แต่ก็แกะๆ เล่นๆมาเรื่อยๆ สบายใจดี
ผมว่าเล่นเเบบclassicมันยากพอๆกับการมาเล่นเเบบpopนะครับในความคิดของผมpopไม่ได้ยากไปจากclasssicอะไรมากเลยครับ
ผมคิดว่า(ส่วนตัว)มีโน๊ตสองเพลงสองแบบมาพร้อมกัน ผมสามารถเล่นเพลงป็อปได้ทันที แต่ผมไม่สามารถเล่นเพลงคลาสสิคได้ทันที ทั้งๆที่ผมเคยได้ยินเพลงทั้งสองเพลงอย่างคุ้นหูเหมือนกัน อาจเป็นเพราะโน๊ตเพลงคลาสสิคส่วนมากจะมีความซับซ้อน และโน๊ตมือซ้ายหลากหลายและยากกว่าเพลงป๊อป